พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลงนามยืนยันอย่างเป็นทางการว่า บริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดสดฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทย, สปป.ลาว และ กัมพูชา ในตลอด 6 ฤดูกาลหน้า หรือนับตั้งแต่ซีซั่นหน้าเป็นต้นไป
หลังจากบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้รับสิทธิถ่ายทอดสดรายการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ ครอบคลุมประเทศไทย, สปป.ลาว และ กัมพูชา
เมื่อ 22 พ.ย. ที่ผ่านมา JAS ได้รับหนังสือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรจาก The Football Association Premier League Limited (Premier League) สำหรับการลงนามยืนยันอย่างเป็นทางการแล้วว่า JAS ได้สิทธิแต่เพียงผู้เดียว (Exclusivity right) ในการถ่ายทอดสดภาพและเสียง ของรายการฟุตบอล พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ เป็นระยะเวลารวม 6 ปี หรือ 6 ฤดูกาล ใน 3 ประเทศ
โดยได้รับสิทธิทั้งการถ่ายทอดสด รีรันและ ไฮไลท์ เริ่มตั้งแต่ต้นซีซั่น 2025/26 ไปจนกระทั่งสิ้นสุดซีซั่น 2030/31 โดยซีซั่นจะหน้าเริ่มในวันที่ 16 ส.ค. 2568 เป็นต้นไป คิดเป็นมูลค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมด 559,980,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ 19,167 ล้านบาท
ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (รักษาการ) JAS กล่าวว่า “พรีเมียร์ลีกได้ส่งหนังสือการลงนามยืนยันถึงการได้ลิขสิทธิ์พรีเมียร์ลีกและเอฟเอ คัพ ของ JAS ทั้ง 6 ฤดูกาล กลับมาให้เรียบร้อยแล้ว ขอยืนยันว่าการรับชมต้อง Streaming ผ่าน MONOMAX เป็นหลัก รวมถึงชมผ่าน Smart TV ได้ ในเรื่องของราคาจะไม่เกิน 400 บาทต่อเดือน สามารถดูรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ รวมถึงดูภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศได้ไม่จำกัด”
สำหรับ พรีเมียร์ลีก ถือเป็นลีกฟุตบอลที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก JAS วางเป้าหมายถ่ายทอดคอนเทนต์ให้เข้าถึงมากกว่า 25 ล้านครัวเรือนใน 3 ประเทศ ตั้งเป้าสมาชิก 3 ล้านบัญชีในปีแรก จากจำนวนประชากรทั้งสิ้น 96 ล้านคน ถือเป็นการปิดดีลลงทุนอภิมหาโปรเจกต์ โดยมีกลุ่มบริษัทโมโน (MONO) อาทิ MONOMAX และ ช่อง MONO29 เข้าร่วมเป็นพาร์ทเนอร์ในการทำการตลาดและจัดจำหน่าย
ทั้งนี้ ดร.โสรัชย์ อัศวะประภา ยังได้ให้สัมภาษณ์ไว้กับ Main Stand ถึงหลายประเด็นของการถ่ายทอดสด ดังนี้
สาเหตุที่ซื้อลิขสิทธิ์ พรีเมียร์ลีก “ทาง JAS ยืนยันว่ารักฟุตบอล และที่ผ่านมาไม่เคยเลิกรักฟุตบอลเลย เพียงแต่ที่ผ่านมายังไม่พร้อม แต่เมื่อปีที่ผ่านมา JAS ได้แบ่งขายหุ้น 3BB บางส่วนให้กับ AIS ทำให้มีเงินส่วนนี้มาซื้อลิขสิทธิ์”
ราคาแพคเกจรับชมสำหรับแฟนๆ “เบื้องต้นกำลังอยู่ในช่วงศึกษาโมเดลทางธุรกิจ แต่ยืนยันว่า ราคาแพคเกจเฉพาะการดูพรีเมียร์ลีกอย่างเดียว ราคาไม่สูงกว่า 400 บาทต่อเดือน อย่างแน่นอน และราคาไม่แพงกว่าเจ้าของลิขสิทธิ์เดิม นอกจากนี้ ยังมี ดองเกิล ที่ผูกระบบกับสมาชิก สามารถเสียบดูได้ทุกที่ ซึ่งผู้ใช้ควรสะดวกสบายที่สุด ตั้งเป้าปีแรก 3 ล้านบัญชี”
ราคาลิขสิทธิ์ที่แท้จริง “เบื้องต้นใน 3 ปีแรก ค่าลิขสิทธิ์เฉลี่ยปีละ 2 พันกว่าล้านบาท แต่สำหรับใน 3 ปีถัดมา ทางบอร์ดพรีเมียร์ลีก ขอเพิ่มอีก 30% เนื่องจากเป็นการผูกสัญญาระยะยาว”
มีถ่ายฟรีทีวี “ฟรีทีวี ที่มีแน่ๆ คือ MONO29 ส่วนจะมีพันธมิตรหรือไม่ต้องขึ้นอยู่กับช่องที่สนใจจะมาเจรจา”
ประเด็นการขาดทุนในอนาคต “มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะศึกษาโมเดลธุรกิจมานาน ครั้งที่ผ่านมาอย่าง CTH คือหวังทำธุรกิจจากการขายกล่อง ซึ่งไม่ประสบความสำเร็จ ขายไม่ได้ตามเป้า แต่ในครั้งนี้ มั่นใจว่าจะประสบความสำเร็จได้”
เว็บไซต์อันดับ 1 ในเอเชีย มีทุกหน้าเดิมพัน ทั้ง กีฬา คาสิโน และอื่นๆ
* ปลอดภัย น่าเชื่อถือ รวดเร็ว
* เลือกเดิมพันได้หลากหลาย
* โปรโมชั่นสุดเร้าใจ ไม่เหมือนใคร