
มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน ทัพช้างศึก ทีมชาติไทย ประกาศเป้าหมายสำหรับการพาทีมลงเล่นฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 ที่จังหวัดสงขลา ว่าอยู่ที่การคว้าแชมป์ สถานเดียวเท่านั้น และขณะเดียวกัน ตนก็จะใช้เป็นเวทีสำหรับทดสอบตัวผู้เล่นหลายๆ คน ว่าจะสามารถไปต่อกับทีมในระยะยาวได้หรือไม่
ในการตัดตัว 23 คนสุดท้าย สำหรับลุย คิงส์ คัพ ซึ่งมีการประกาศเมื่อ 1 ต.ค. ที่ผ่านมานั้น นอกจากบรรดาตัวหลักอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธุ์, นิโคลัส มิคเกลสัน จนถึง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา และ ศุภชัย ใจเด็ด แล้ว ก็มีหน้าใหม่ๆ อาทิ โจนาธาน เข็มดี (ราชบุรี เอฟซี), อภิสิทธิ์ โสรฎา (ราชบุรี เอฟซี), ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ (เมืองทอง ยูไนเต็ด), อนันต์ ยอดสังวาลย์ (ลำพูน วอริเออร์), วิลเลี่ยม เวเดอร์เฌอ (อุทัยธานี เอฟซี), คคนะ คำยก (เมืองทอง ยูไนเต็ด) ซึ่งในจำนวนนี้เคยติดธงชุดใหญ่มา 0 หรือ 1 นัดเท่านั้น
คิงส์ คัพ ครั้งที่ 50 จะจัดที่สนามติณสูลานนท์ จ.สงขลา วันที่ 11 และ 14 ต.ค. โดยมี 4 ทีมเข้าร่วมคือ ทีมชาติไทย อันดับ 100 ของโลก, ซีเรีย อันดับ 92 ของโลก, ทาจิกิสถาน อันดับ 103 ของโลก และ ฟิลิปปินส์ อันดับ 148 ของโลก
โปรแกรมการแข่งขันนัดแรก วันที่ 11 ต.ค. เวลา 16.30 น. ซีเรีย พบ ทาจิกิสถาน, เวลา 20.00 น. ไทย พบ ฟิลิปปินส์ จากนั้นวันที่ 14 ต.ค. 67 จะเป็นรอบชิงอันดับ 3 และรอบชิงชนะเลิศ
อิชิอิ กล่าวว่า ฟุตบอลรายการนี้ ถือว่าเป็นถ้วยของไทย ดังนั้นแน่นอนว่าเป้าหมายคือต้องชนะทั้ง 2 เกม เพื่อคว้าแชมป์ให้ได้ ทั้งนี้ต้องโฟกัสที่คู่แข่งด่านแรกก่อน คือ ฟิลิปปินส์ แม้อันดับโลกต่ำกว่าไทยแต่ก็ประมาทไม่ได้ เพราะทัวร์นาเมนต์นี้มีแค่ 2 เกม ถ้าไม่ชนะเกมแรก ก็ไม่สามารถต่อยอดไปเกมที่ 2 ได้
ในส่วนข้อมูลของฟิลิปปินส์นั้น มีอยู่แล้วพอสมควร แต่จากนี้จะต้องวิเคราะห์ลงรายละเอียด จุดแข็ง จุดอ่อน เพื่อเตรียมพร้อม เพราะถือเป็นเกมที่สำคัญมาก ส่วนซีเรีย กับ ทาจิกิสถาน นั้น แม้จะมีข้อมูลเบื้องต้น ก็จะต้องมาดูตอนเกมที่แข่งวันแรกเพื่ออัพเดต และลงในรายละเอียด
คิงส์ คัพ ครั้งก่อนที่ จ.เชียงใหม่ อิชิอิ เดินทางไปชมในฐานะประธานเทคนิคทีมชาติไทยด้วย ซึ่งกุนซือซามูไรกล่าวว่า จากที่เคยสัมผัสกับฟุตบอลคิงส์ คัพ นับเป็นบรรยากาศที่ดีอย่างมาก ที่ทีมไทยลงเล่นท่ามกลางแฟนบอลจำนวนมาก ทำให้นักเตะฮึกเหิมในการเล่น มีพละกำลังมากขึ้น
อิชิอิ กล่าวด้วยว่า สำหรับโปรแกรมของ ไทย ใน 2 เดือนข้างหน้านั้น ตนต้องการดูว่า นักเตะที่เรียกมาจำนวนมาก จะสามารถทำความเข้าใจกับแท็กติกของทีมชาติไทยได้ขนาดไหน ซึ่งตนเองจะถ่ายทอดแท็กติกและระบบต่างๆ ให้มากที่สุด เท่าที่จะมากได้ ก็ต้องดูว่านักเตะคนใดทำได้ตามที่ถ่ายทอดไปมากที่สุด ก่อนที่จะมีศึกอาเซียนคัพ ปลายปี ต่อเนื่องถึง เอเชียนคัพ รอบคัดเลือก ในปีหน้า
ทั้งนี้ ทีมชาติไทย ได้แชมป์ คิงส์ คัพ ครั้งสุดท้าย ในการจัดครั้งที่ 45 เมื่อปี 2560 ที่ราชมังคลากีฬาสถาน โดยรอบชิงชนะเลิศชนะจุดโทษ เบลารุส 5-4 (เสมอในเวลา 0-0) จากนั้นในการจัด 4 ครั้งหลัง ยังไม่ได้แชมป์อีก และประวัติศาสตร์ฟุตบอลคิงส์คัพ ที่ไปแข่งขันต่างจังหวัด ทีมไทยก็ยังไม่เคยได้แชมป์เลย
พบกับคอนเทนท์ดีๆ ของ 12B Sports Thailand Know The Game! เพิ่มเติมได้ที่
Facebook
YouTube
TikTok