
ศึกจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก ไทยจีพี “โมโตจีพี 2024” สนามที่ 18 พีที กรังด์ปรีซ์ ออฟ ไทยแลนด์ 2024 ที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ที่ผ่านมา ฟรานเชสโก้ บันยาย่า คว้าตำแหน่งโพล สร้างสถิติใหม่ด้วยเวลา 1 นาที 28.700 วินาที กลายเป็นนักแข่งคนแรกที่ทำเวลาได้ต่ำกว่า 1 นาที 29 วินาที นับเป็นโพลที่ 22 ในชีวิตของ บันยาย่า และเป็นโพลที่ 4 ในฤดูกาลนี้ นำหน้าทีมเมทจากดูคาติ เอนีย บาสเตียนินี ที่ตามหลัง 0.232 วินาที
สุดยอดมอเตอร์สปอร์ตสองล้อ โมโตจีพี เปิดม่านดวลสนาม 18 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 กระตุ้นอะดรินาลีนแฟนความเร็วด้วย “สปรินต์เรซ” ซึ่งขับเคี่ยวดุเดือดจนรอบสุดท้าย ผลปรากฏว่า เอเนีย บาสเตียนินี นักบิดอิตาเลียนจาก ดูคาติ เลอโนโว ทีม ชิงจังหวะออกตัวยอดเยี่ยมนำม้วนเดียวจบ เข้าวินประเดิม สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ เหนือ ฆอร์เก้ มาร์ติน และ ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า ขณะ “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ฝืนอาการบาดเจ็บคว้ากริดที่ 13 ลุ้นหนักล่าโพเดียมโฮมเรซวันอาทิตย์นี้
การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบชิงแชมป์โลก โมโตจีพี 2024 สนาม 18 รายการ PT Grand Prix of Thailand 2024 ดวลความเร็วรอบ “สปรินต์” วันเสาร์ที่ 26 ตุลาคม 2567 ท่ามกลางการติดตามของแฟนความเร็วทั่วโลกผ่านการถ่ายทอดสดกว่า 220 ประเทศ ขณะเดียวกันก็มีแฟนมอเตอร์สปอร์ตทั้งชาวไทยและต่างชาติ เข้ามาชมเกือบเต็มความจุของทุกสแตนด์ บรรยากาศคึกคักกว่าทุกปี
โดยตำแหน่ง “โพล” ในเรซนี้หลังผ่านการควอลิฟายตกเป็นของ “ฟรานเชสโก้ บันยาญ่า” แชมป์โลก 2 สมัยชาวอิตาเลียนจาก ดูคาติ เอลโนโว ทีม ที่ทุบสถิติตลอดกาลของ สนามช้างฯ ลงอย่างราบคาบด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 28.700 วินาที โดยมีทีมเมทอย่าง “เอเนีย บาสเตียนินี” ขนาบข้างในกริดที่ 2 ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ฆอร์เก้ มาร์ติน” นักบิดสแปนิชผู้นำบนตารางคะแนนสะสมจาก พรีมา พรามัค เรซซิ่ง ขณะที่ “มาร์ค มาร์เกซ” แชมป์โลก 8 สมัย จาก เกรซินี เรซซิ่ง พลาดล้มในรอบควอลิฟาย ได้ออกตัวจากกริดที่ 5
เกมในรอบ “สปรินต์” ดวลกันทั้งสิ้น 13 รอบสนาม เปิดเกมมาก็มีจุดเปลี่ยนตั้งแต่โค้งแรก เมื่อ มาร์ติน และ บันยาย่า พลาดเสียตำแหน่ง ส่งผลให้ บาสเตียนินี ขยับขึ้นมาเป็นจ่าฝูงได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่เจ้าตัวจะหนีออกไปและบิดเข้าป้ายเป็นอันดับ 1 คว้าชัยชนะไปครองอย่างสุดมันส์ ด้วยเวลา 19 นาที 31.131 วินาที
ขณะที่ มาร์ติน แม้จะตกไปถึงอันดับ 5 ในรอบแรก แต่ก็ไล่แซงอย่างดุเดือดขึ้นมาคว้าอันดับ 2 ตามหลังผู้ชนะ 1.357 วินาที ตามด้วย บันยาญ่า ในอันดับ 3 ตามหลัง 2.372 วินาที ส่วน มาร์เกซ บิดเข้าป้ายในอันดับ 4 ตามหลัง 5.402 วินาที ตามด้วยน้องชายอย่าง “อเล็กซ์ มาร์เกซ” ในอันดับ 5 ตามหลัง 10.140 วินาที
ด้านสถานการณ์ในรุ่น “โมโตทู” ซึ่งมีการควอลิฟาย เพื่อจัดอันดับสตาร์ตในช่วงบ่าย ปรากฏว่า “ไอ โอกุระ” นักบิดญี่ปุ่นจาก เอ็มที เฮลเม็ต – เอ็มเอสไอ จ่าฝูงบนแชมเปียนชิพ สร้างโอกาสคว้าแชมป์โลกในเมืองไทย โดยคว้าโพลไปครองด้วยเวลา 1 นาที 34.728 วินาที เฉือน “แอรอน คาเน็ต” นักบิดสแปนิชจาก ฟานติค เรซซิ่ง อันดับ 2 เพียง 0.051 วินาที ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “ดิโอโก โมเรร่า” ดาวรุ่งชาวบราซิเลียนจาก อิตัลทรานส์ เรซซิ่ง ทีม ตามหลัง 0.074 วินาที
ส่วน “ก้อง” สมเกียรติ จันทรา นักบิดขวัญใจชาวไทยจาก อิเดมิตสึ ฮอนด้า ทีม เอเชีย ฝืนอาการบาดเจ็บบิดคว้ากริดที่ 13 ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 35.189 วินาที ตามหลังหัวแถว 0.461 วินาทีเท่านั้น โดยรถแข่งของดาวบิดไทยต้องโยกเบรกหลังมาไว้ที่แฮนด์ฝั่งซ้าย แทนที่ของเดิม ซึ่งปกติจะอยู่ที่เท้าขวา เพื่อให้สามารถใช้เบรกหลังได้ โดยไม่กระทบกับอาการบาดเจ็บ
ผลการควอลิฟายในรุ่น โมโตทรี ปรากฏว่าตำแหน่งโพลตกเป็นของ “โจล เคลโซ” นักบิดออสเตรเลียนจาก โบเอ มอเตอร์สปอร์ต ด้วยเวลาต่อรอบ 1 นาที 40.603 วินาที เฉือน “คอลลิน วายเยอร์” นักบิดดัตช์จาก ลิควิ โมลี ฮัสควาน่า อินแท็ค จีพี อันดับ 2 เพียง 0.073 วินาทีเท่านั้น ส่วนกริดที่ 3 เป็นของ “อังเกล ปิเกราส” ดาวรุ่งสแปนิชจาด เลพเพิร์ด เรซซิ่ง ตามหลัง 0.124 วินาที ขณะที่ “ก๊องส์” ธัชกร บัวศรี นักบิดไทยจาก ฮอนด้า ทีม เอเชีย ได้ออกตัวจากกริดที่ 25 ด้วยเวลา 1 นาที 42.547 วินาที
สำหรับการแข่งขันในรอบ “เมนกรังด์ปรีซ์” ของทุกรุ่นจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 27 ตุลาคมนี้ เริ่มต้นจาก โมโตทรี 12.00 น. ต่อด้วย โมโตทู 13.15 น. และปิดท้ายด้วย โมโตจีพี 15.00 น.
เว็บไซต์อันดับ 1 ในเอเชีย มีทุกหน้าเดิมพัน ทั้ง กีฬา คาสิโน และอื่นๆ
* ปลอดภัย น่าเชื่อถือ รวดเร็ว
* เลือกเดิมพันได้หลากหลาย
* โปรโมชั่นสุดเร้าใจ ไม่เหมือนใคร
* พร้อมบริการคุณตลอด 24 ชั่วโมง