แม้ว่าจะผ่านไปแล้ว 7 นัด แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะยังคงผลงานลุ่มๆดอนๆ และยังหาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอไม่เจอ ด้วยผลงาน ชนะ 2 เสมอ 2 แพ้ 3 นัด เก็บได้เพียง 8 คะแนน รั้งอันดับที่ 14 ของตารางคะแนน ก่อนพักเบรกทีมชาติ จนถูกวิพากษ์ วิจารณ์ อย่างหนักถึงฟอร์มการเล่น และฝีมือของกุนซืออย่าง เอริค เทน ฮาก ที่อนาคตการทำงานในถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด ดูจะไม่ค่อยสดใสเท่าไหร่
การวิพากษ์ วิจารณ์ พาดพิงถึงผู้เล่นหน้าใหม่ที่ แมนฯยูไนเต็ด เสริมทัพเข้ามาในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทั้งๆที่ แมนฯยูไนเต็ด ใช้เม็ดเงินไปจำนวนไม่น้อย ในการเสริมผู้เล่นดาวดังเข้าสู่ทีม ไม่ว่าจะเป็น มัทไธจ์ส เดอ ลิกต์ , เลนี โยโร่ , มานูเอล อูการ์เต้ , มาซราวี , โจซัว เซิร์คเซ่ แต่ผู้เล่นเหล่านี้กลับยังหาฟอร์มเก่งไม่เจอ และยังคงต้องพึ่งพาฟอร์มการเล่นของผู้เล่นหน้าเก่าอยู่ดี
ซึ่ง 3คีย์แมน ที่เป็นหัวใจหลัก ที่ยังคงมีฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอ และพอจะพึ่งพาได้ของทีมปีศาจแดง คงหนีไม่พ้นกัปตันทีมอย่าง บรูโน่ แฟร์นานเดส ซึ่งถือว่า ยังคงเป็นนักเตะที่เต็มเปี่ยมไปด้วยแพชชั่น และความทุ่มเท..
บรูโน่ ยังคงเป็นผู้เล่นที่สรรค์สร้างเกมในแนวรุกได้ดี และยังมีบทบาทสำคัญในการเป็นผู้นำ ที่จะคอยกระตุ้นเพื่อนร่วมทีมในสนามผ่านไป 7 นัด บรูโน่ ทำไป 1 แอสซิสต์ ได้ลงเล่นทั้งหมด 571 นาที หรือเรียกได้ว่า แทบจะต้องลงเล่นทุกเกม ทุกนาทีในช่วงออกสตาร์ท เปรียบ บรูโน่ เสมือนหัวใจสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทีมจะขาดเขาไม่ได้ในตอนนี้
แต่ก็ใช่ว่า บรูโน่ จะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น ในหลายจังหวะที่เขาพยายามสร้างสรรค์เกมรุก แต่กลับถูกทีมคู่แข่งตัดเกมได้ จนเป็นผลให้เสียรูปเกมก็มีให้เห็นเหมือนกัน รวมถึงข้อด้อยในการลงมาช่วยเกมรับ ก็เป็นข้อเสียของเจ้าตัวมาโดยตลอด แต่ทั้งนี้ก็ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่นๆด้วย เช่น การจัดตัวผู้เล่นแดนกลางของ เทน ฮาก ในแต่ละนัด โดยเหตุผลข้อนี้ ทำให้ผู้เล่นอาจยังไม่เข้าใจกัน จนทำให้เราได้เห็น บรูโน่ จ่ายบอลเสียในหลายๆจังหวะ
คนต่อมา คือ คาเซมิโร่ อีกหนึ่งหัวใจสำคัญในแดงกลางของ แมนฯยูไนเต็ด ถึงแม้ว่าด้วยอายุอานาม อาจทำให้กองกลางชาวบราซิลรายนี้ ไม่พีคเหมือนสมัยที่เล่นให้กับ เรอัล มาดริด แต่ด้วยประสบการณ์บวกความเก๋า ทำให้เราได้เห็นการช่วยทีมเซฟจังหวะสำคัญๆในเกมแดนกลางเอาไว้ได้
คาเซมิโร่ มีจุดเด่นตรงที่การตัดเกม ซึ่งผ่านไป 7 นัด ที่เขามีโอกาสได้ลงสนามจาก 6 เกม คาเซมิโร่ มีเรทติ้งค่าเฉลี่ยในการเล่นเกมรับเฉลี่ยสูงถึง 6.93 เปอร์เซ็น และยังมีอัตราผ่านบอลแม่นยำสูงถึง 81.2 เปอร์เซ็น แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพในเกมแดงกลาง และช่วยรักษาสมดุลของทีมได้ดี ในสถานการณ์ที่ทีมโดนบุกกดดัน
แต่อย่างที่ได้เกริ่นไว้ตอนต้นในเรื่องของอายุที่มากขึ้น ทำให้ คาเซมิโร่ ไม่สามารถยืนระยะได้ตลอด 90 นาที จึงมีข้อผิดพลาดให้เห็นอยู่หลายครั้งเช่นกัน โดยเฉพาะในเกมที่ต้องเจอกับทีมที่สวนกลับเร็ว อย่างเช่น เกมที่แพ้ ลิเวอร์พูล 0-3 เป็นต้น
คนสุดท้าย คงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก มาร์คัส แรชฟอร์ด กับเสียงวิจารณ์ถึงฟอร์มการเล่นของเจ้าตัว ในตลอดช่วง 2-3 ปี หลังมานี้ และดูเหมือนว่า เสียงวิจารณ์จะเป็นไปในทางลบเสียมากกว่า แต่กลับกันในฤดูกาลปัจจุบัน ที่ แรชฟอร์ด มีส่วนร่วมกับทีมมากขึ้น จ่ายบอลให้เพื่อนได้เยอะขึ้น ลดความเป็น “พ่อเลี้ยงเมืองเหนือ” ลงไปบ้างพอสมควร..
โดยผ่านไป 7 นัด แรชฟอร์ด ยิงได้ 1 ประตู มีส่วนร่วมสำคัญๆกับเกมรุกในหลายจังหวะ หาพื้นที่เติมเกมได้ดี และถือว่าเป็นตัวจริงที่ทีมจะขาดเขาไม่ได้ในตอนนี้
แต่ข้อด้อยของ แรชฟอร์ด ก็มีเช่นกันโดยเฉพาะในเรื่องความสม่ำเสมอของฟอร์มการเล่น ซึ่งเป็นสิ่งที่เจ้าตัวต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์ วิจารณ์ มาโดยตลอด นัดไหนฟอร์มดีก็ดีใจหาย นัดไหนฟอร์มตกก็แย่บรม ทำอะไรได้ไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลย รวมถึงในเรื่องการตัดสินใจว่า จะยิงหรือจะจ่าย? ก็ยังเป็นข้อบกพร่องของเจ้าตัว ที่ทำให้ทีมเสียโอกาสอยู่หลายครั้งเช่นกัน
ทั้ง 3คน ที่ว่ามานี้ อาจจะยังไม่ใช่ผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกตอนนี้ แต่เป็น 3 ผู้เล่นที่ดีที่สุดของแมนฯยูไนเต็ด พอจะพึ่งพาเป็นความหวังได้บ้าง..
อย่างไรก็ตามผลงานของทีมขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย ทั้งเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่น ที่ตอนนี้มีผู้เล่นบาดเจ็บกันอยู่ราว 4-5 ราย รวมถึงความคาดหวังจากแฟนบอลซึ่งเป็นแรงกดดันสำคัญ
ดังนั้นจึงเป็นงานหนักที่ เทน ฮาก จะต้องเผชิญ โดยนักเตะในทีมจะต้องร่วมด้วยช่วยกัน โดยมีทั้ง 3คีย์แมน นี้ เป็นความหวังที่จะทำให้ทีมกลับมาอยู่ในเส้นทางที่ดีให้ได้อีกครั้ง
ร่วมสนุกกับ กิจกรรมเชียร์ทีมที่รักกับ 12BSports Thailand
ร่วมกิจกรรมลุ้น799บาท เพียงกดที่ลิงค์แล้ว เข้าไปตอบว่า.. ทีมรักโดนใจ ทีมฟุตบอลใดคือขวัญใจของคุณ?
พบกับคอนเทนท์ดีๆ ของ 12B Sports Thailand Know The Game! เพิ่มเติมได้ที่
YouTube
TikTok